
คู่แค้นติดตังค์ผมอยู่ 200 บาท เมื่อตนทวงก็ไม่ยินยอมคืน ก็เลยมีปากมีเสียงกัน
วันที่ 10 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เวลา 20.20 น. ตำรวจ สังคม สถานีตำรวจราษฎร์ซ่อม รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ อยู่ข้างในปั้มน้ำมัน การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ฝั่งตรงข้ามสถานที่เรียนฟุ้งกระจายโรจน์วิทยา ใกล้เคียงปากซอย ประชากรอุทิศ 35 ก็เลยรีบรุดจัดกำลังพร้อมผสาน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมรู้บุญคุณ เร่งรัดตรวจทานจุดเกิดเหตุในทันที
เมื่อตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงจุดเกิดเหตุ เจอเหตุกำเนิดด้านในปั้มน้ำมัน การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ฝั่งตรงข้ามสถานที่เรียนแผ่กว้างโรจน์วิทยา ใกล้เคียงปากซอยประชาชนอุทิศ 35 ถนนหนทาง ประชากรอุทิศ ตำบล ราษฎร์ซ่อมแซม เขต ราษฎร์ซ่อม จ.กรุงเทพฯ จากการตรวจทานแล้วเจอผู้ที่บาดเจ็บเป็น ชาย 1 ราย รู้ชื่อคนที่บาดเจ็บถัดมาชื่อ นาย ปัญญพนต์ อายุ 20 ปี มีรอยแผลรอบๆหัว เป็นรอยแผลแตก ซึ่งมีต้นเหตุจากการโดนตีด้วยของแข็งอย่างหนัก รวมทั้งรอบๆหน้าผากบวมปูดอย่างชัดเจนเจน ซึ่งมีสาเหตุจากโดนของแข็งประเภทเดียวกันตีเข้าอย่างหนักด้วยเหมือนกัน
จากการถาม ผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวทั้งยังน้ำตาว่า คู่แค้นติดตังค์ผมอยู่ 200 บาท เมื่อตนทวงก็ไม่ยินยอมคืน ก็เลยทะเลาะกัน ต่อจากนั้นก็ถูกอีกข้างเอาไม้เบสบอลตามมารังควานตน
ถามจากนาย สุทิวัส อายุ 19 ปี ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งเป็นคนที่ถ่ายรูปฆาตกรเอาไว้ได้ พูดว่า ตนเป็นไรเดอร์ส่งของกิน นั่งรองานอยู่รอบๆหน้าร้านค้าสบายซื้อข้างในปั้ม ในขณะนั้นคนได้รับบาดเจ็บก็มานั่งเล่นด้วยแม้กระนั้นก็อยู่ห่างกันมิได้นั้งใกล้กัน ครู่หนึ่งก็มีชาย 2 คน ถืออาวุธไม้เบสบอล รวมทั้งขวดเบียร์สด เดินตรงมารังควานคนที่บาดเจ็บเลย ตนก็เลยถ่ายรูปฆาตกรเอาไว้ได้ แต่ว่าที่จริงแล้วมากัน 3 คน แต่ว่าผู้ทำก่อเหตุมี 2 คน อีกคนตนก็เลยถ่ายรูปเอาไว้ไม่ทัน
ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้มอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรู้คุณรักษาเบื้องต้นพื้นฐาน แล้วทางเครือญาติของคนบาดเจ็บได้นำเพศผู้ได้รับบาดเจ็บกลับไปอยู่ที่บ้านก่อนเพื่อไปเอาเอกสารบัตรประชาชนแล้วจะนำเพศผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่โรงหมอตามสิทธิ์การดูแลรักษาเอง แล้วจะพาไปฟ้องร้องร้องเรียนที่ สถานีตำรวจราษฎร์ซ่อม ตามขั้นตอนของข้อบังคับถัดไป